แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ คำพูด แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ คำพูด แสดงบทความทั้งหมด

วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2563

การรักษาคำพูด / รักษาสัญญา

      การรักษาคำพูดให้น่าเชื่อถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะนับได้ว่าเป็นรากฐานชีวิตที่มีอิทธิพลทั้งต่อตนเองและผู้อื่นและต่อประเทศชาติด้วย เราต้องคิดใคร่ครวญตรึกตรองอย่างรอบคอบก่อนที่จะพูด หรือสัญญาสิ่งใดออกไป  และเมื่อตัดสินใจพูดไปแล้ว จะต้องรักษาสิ่งนั้นอย่างสุดความสามารถ  แม้ว่าจะต้องฝ่าฟันปัญหาอุปสรรคก็ยังต้องใช้ความมานะ หรือความพยายามที่จะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับผู้อื่นอย่างถึงที่สุด
   
       ก่อนที่จะรับปากใคร หรือพูดสิ่งใดออกไป จำเป็นต้องมีการคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ ตามข้อเท็จจริงและเหตุผลความเป็นไปได้ที่มีอยู่เสียก่อน  เราไม่ควรรับปากใครบนพื้นฐานของความเกรงใจ หรือรับปากไปตามอารมณ์ความรู้สึกขณะนั้น และที่สำคัญ เราต้องกล้าพูดความจริงว่า เราสามารถรักษาคำพูดได้หรือไม่  เพื่อเราจะได้ไม่ต้องเสียใจที่จะต้องรับผิดชอบต่อคำพูดที่ไม่รอบคอบของเราในภายหลัง

ดั่งคำคมที่กล่าวไว้อย่างกินใจ เช่น

การพูด การประกวดสุนทรพจน์ เจ้าภาพ นักร้อง, การแข่งขันร้องเพลง, ฉาก ..."คำมั่นสัญญา  อาจทำให้เราเป็นเพื่อนกัน  แต่ถ้าไม่มีหลักเกณฑ์ใดมาควบคุมแล้วละก็  สักวันหนึ่่ง คำมั่นสัญญานั้น  อาจทำให้เรากลายเป็นศัตรูกันได้ เช่นกัน"
       **เบนจามิน  แฟรงคลิน**

"ทางที่ดีที่สุดที่จะรักษาคำพูดคือ  อย่าพูดให้สัญญากับใคร"

      เพราะคำพูดเมื่อหลุดออกจากปากไปแล้ว ไม่สามารถที่จะเรียกกลับคืนได้ เราต้องตระหนักในคำพูดทุกถ้อยคำของเราที่ตัดสินใจกล่าวออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำพูดที่เรากล่าวสัญญาว่าจะกระทำสิ่งใด เราจะต้องเป็นผู้มีสัจจะรักษาคำพูด และพยายามกระทำให้เกิดขึ้นตามสิ่งที่พูดไว้ให้ได้
นโปเลียน โบนาปาร์ต

วันพฤหัสบดีที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ทำไมต้องใส่ใจใน "คำพูด"

           การแสดงออกซึ่งตัวตนของคนเรานั้นมีหลายทางโดยจะเกี่ยวเนื่องกับสภาวะจิตใจและอารมณ์เสมอ เช่น การแสดงออกทางกริยาท่าทาง สายตา และคำพูด กล่าวคือ เมื่ออารมณ์เสีย ก็จะแสดงอาการหงุดหงิด โมโห โกรธ เซ็ง ฮึดฮัด และเสียงดัง  หากอารมณ์ดี ก็จะ ยิ้ม สนุกสนาน หรือร้องเพลง เป็นต้น
           การพูดก็เป็นการแสดงออก อย่างหนึ่ง ที่จะแสดงให้เห็นถึง เจตนา ความคิด หรือตัวตนของผู้พูด ดังนั้นเมื่อคำพูด สามารถแสดงตัวตนของผู้พูดได้ ก็แสดงว่าการพูดก็สามารถทำให้ผู้พูดเจริญหรือเสียคนได้เช่นกัน
           หากวิเคราะห์ ถึงวิธีการ ข้อปฏิบัติหรือมารยาทในการพูด จะพบว่าสามารถแบ่งได้ออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มลักษณะการพูดในทางบวก และกลุ่มลักษณะการพูดในทางลบ
           1) กลุ่มลักษณะการพูดในทางบวก เช่น
                       - พูดมีสาระ
                       - รู้จักเลือกหัวข้อที่จะพูด
                       - แสดงความจริงใจในการพูด
                       - รักษาคำพุดหรือคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้
                       - รู้จักกาละเทศะ ที่ต่ำที่สูงและควรไม่ควร
                       - รู้จักวางตัว และเคารพสถานที่
                       - ใช้เสียงดังพอประมาณ
                       - รู้จักรักษาความลับ
                       - รู้จังหวะเปลี่ยนหัวข้อการพูด
           2) กลุ่มลักษณะการพูดในทางลบ เช่น
                       - ขี้บ่น
                       - สบถ สาบาน (เช่น ให้ฟ้าผ่าหมาตายเหอะ)
                       - ล้อเลียน
                       - ยกยอจนเกินงาม
                       - ดูถูกเหยียดหยาม
                       - พูดคำหยาบ ลามก
                       - พูดทับถมหรือเกทับผู้อื่น
                       - เอาความไม่ดีของคนอื่นไปพูด
                       - นินทาผู้อื่นในแง่ลบ (อยากรู้เรื่องของชาวบ้าน เรื่องตัวเองไม่รู้)
                       - วิพากษ์ วิจารณ์เกี่ยวกับศาสนา การเมือง หรือความรัก
                       - พูดให้คนฟังหรือผู้พูดด้วยเสียหน้า
                       - ตะโกนโหวกเหวก ข้ามหัวผู้ใหญ่ (และกำนัน อิอิ)
                       - พูดโอ้อวด อวดอ้างความรวย หรือความดีของตนเอง
                       - นำเรื่องในครอบครัวมาพูด (ไฟในอย่านำออก ไฟนอกอย่านำเข้า)
                       - ส่อเสียด
                       - ติเตียน
                       - ปฏิเสธความดีของผู้อื่น
                       - ปรับทุกข์กับบุคคลอื่นโดยไม่จำเป็น
                       - พูดมาก นอกเรื่อง น่ารำคาญ
                       - ให้ร้ายป้ายสี (ใส่ไฟ)
                       - ถ่อมตัวมากเกินไป (จนกลายเป็น ถล่มตัว)
            จากที่ยกตัวอย่างมา จะเห็นว่าการพูดเป็นเรื่องที่สำคัญมาก คำพูดในหลายลักษณะ ทำให้ผู้พูดเสื่อมหรือเกิดผลเสียแก่ตัวเองได้ตลอดเวลา ทั้งนี้เพราะเมื่อพลั้งปากพูดไปแล้ว เราไม่สามารถลบหรือนำกลับมาได้ (ยกเว้นในสภา ที่มีการขอถอนคำพูด) ฮา  ดังนั้นผู้อ่านสามารถนำตัวอย่างลักษณะการพูดไปประเมินและปรับปรุงการพูดของตัวเองได้ครับ  แต่หลักง่ายๆ ก็คือ "คิดก่อนพูด" หรือคำนึงถึงคำกล่าวที่ว่า " ก่อนพูด  เราเป็นนาย  พูดไปแล้ว คำพูดเป็นนายเรา"